น้าสาว-น้องชาย ลงพื้นที่หาเบาะแส หลังติดใจสาเหตุการตาย น้องดา สงสัยถูกฆาตกรรมหรือไม่ พร้อมนำหลักฐานก้อนหินเปื้อนเลือดส่งตำรวจพิสูจน์
จากกรณี การเสียชีวิตของ น.ส.ปรียาภรณ์ (สงวนนามสกุล) หรือ น้องดา อายุ 31 ปี ในสภาพเปลือยกายท่อนล่าง สวมใส่ยกทรงสีดำตัวเดียว ลอยขึ้นอืดอยู่บริเวณชายหาดท่ายายทิม เกาะสีชัง ม.3 ต.ท่าเทววงษ์ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 8 มิ.ย. 67 น.ส.สำรวย นิยมการ อายุ 50 ปี น้าผู้เสียชีวิต พร้อมด้วย นายฤทธิเกียรติ พิสุทธิ์ น้องชายของผู้เสียชีวิต เดินทางมาพร้อมกับ นายเค (นามสมมติ) ตัวแทนบริษัทนักสืบเอกชน (ประเทศไทย) จำกัด นำหลักฐาน ทั้งกระเป๋าที่ใส่สัมภาระของผู้เสียชีวิต
ซึ่งมีของใช้ส่วนตัว และมีกระดาษโน้ตใบหนึ่งที่เขียนเพียงเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ พร้อมด้วยไดอารี่ที่เขียนด้วยลายมือของผู้เสียชีวิต ซึ่งเขียนเอาไว้ตั้งแต่ปี 65 พร้อมกับสมุดที่เขียนพินัยกรรม รวมถึงก้อนหินเปื้อนเลือดต้องสงสัย ที่พบระหว่างทางเดินจากช่องเขาขาดไปยังแหลมเขาขาด
นอกจากนี้น้าและน้องชายของผู้ตาย ยังได้ไปดูจุดที่บริเวณจุดพบศพที่ท่ายายทิมหลังจากนั้นญาติได้ไปดูอีกจุดที่บริเวณแหลมเขาขาด โดยเดินจากบริเวณลานจอดรถช่องเขาขาด ใช้ทางเดินข้างล่างเลียบชายหาด ก่อนชี้ให้ดูจุดที่พบก้อนหินเปื้อนเลือดจุดแรก และหลังจากนั้นเดินตามรอยเลือดที่หยดระหว่างทาง ยาวไปจนถึงบริเวณจุดพบกระป๋องเบียร์ และมือถือ ซึ่งคาดว่าเป็นจุดสุดท้ายที่หญิงสาวผู้ตายอยู่ ก่อนจะเสียชีวิต
ทั้งนี้นายฤทธิเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้ตนก็ยังติดใจเรื่องสาเหตุการตายของพี่สาว ทั้งเรื่องของจุดที่พบศพที่ท่ายายทิม ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่คาดว่าน่าจะตกลงไปเสียชีวิตที่บริเวณแหลมเขาขาด โดยจากกระแสน้ำและลักษณะภูมิศาสตร์ ศพไม่น่าจะไปถึงจุดดังกล่าวภายในระยะเวลา 1 วันนับตั้งแต่เวลาที่พี่สาวได้หายตัวไป หลังจากมาจอดรถที่ลานจอดรถช่องเขาขาดช่วงเย็นวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา อีกประเด็นที่ครอบครัวยังตั้งข้อสงสัยคือเรื่องเสื้อผ้าของพี่สาวที่หลุดหายไปจนหมด เหลือเพียงแค่เสื้อชั้นในตัวเดียว
ส่วนประเด็นเรื่องก้อนหินที่พบเปื้อนเลือด ซึ่งร่องรอยดังกล่าวเพิ่งถูกพบเมื่อช่วงประมาณ 4 วันก่อนหลังจากมีคนพบรอยเลือดหยดเป็นทางยาวไปจนถึงบริเวณจุดที่พบกระเป๋าเป้ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของพี่สาวหรือไม่ และยังไม่รู้ว่าเป็นเลือดอะไร ตนจึงอยากจะให้ทางตำรวจช่วยนำหลักฐานทีนี้ไปตรวจพิสูจน์ให้ชัดเจนอีกครั้ง
ส่วนประเด็นเรื่องของพี่สาวที่เสียชีวิตมีปัญหากับแฟนหนุ่มนั้น ตนก็ทราบว่ามีปัญหากันมานานแล้ว และก็มีเรื่องราวถึงขั้นจะเลิกรากันมาตลอด ล่าสุดเคยพิมพ์ข้อความส่งไปหาเพื่อนลักษณะเป็นพินัยกรรมคล้ายกับที่เขียนลงในสมุดบันทึก ส่งไปหาเพื่อนคนหนึ่งที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งตนไม่รู้ว่าเป็นใครเมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน
ขณะเดียวกันในส่วนการเสียชีวิตของพี่สาว เบื้องต้นก็จะต้องรอผลชันสูตรจากแพทย์เพื่อยืนยันสาเหตุการตายอีกครั้ง ซึ่งตนเองก็ยังคงความหาเบาะแสเพื่อที่จะคลี่คลายปมสงสัยระหว่างที่รอผลการชันสูตรไปด้วย
ด้าน น.ส.สำรวย ได้นำกระเป๋าสัมภาระของผู้เสียชีวิตมาเปิดให้ดูสิ่งของภายในซึ่งมีทั้งลิปสติก หวี กระจก หูฟัง ขนม ปากกา และกระดาษเขียนหมายเลขโทรศัพท์ของน้าสาว นอกจากนั้นยังได้เตรียม สมุดไดอารี่ที่เขียนด้วยลายมือของผู้เสียชีวิตเมื่อ 2 ปีก่อน และสมุดพินัยกรรมซึ่งเขียนส่งมอบทรัพย์สินให้กับญาติ
น.ส.สำรวย บอกว่า ตนติดต่อกับหลานสาวครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากหลานสาวบอกว่าจะมาเที่ยวที่เกาะสีชัง ตนก็ยังติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตของหลานสาว หลังจากหลานสาวเสียชีวิต ตอนแรกก็คิดว่าหลานสาวอาจจะฆ่าตัวตายจากปัญหาชีวิต แต่เมื่อได้ดูภาพที่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ถ่ายเอาไว้ ก็รู้สึกสงสัยในหลายประเด็น ทั้งในเรื่องของลักษณะภูมิศาสตร์ของเกาะ และกระแสน้ำ ซึ่งศพไม่น่าจะลอยมาถึงบริเวณท่ายายทิม ซึ่งเป็นจุดพบศพรวมถึงสภาพศพที่พบไม่สวมเสื้อผ้า
ตนเดินทางมาที่เกาะสีชังเกือบทุกวันนับตั้งแต่หลานสาวเสียชีวิต เพื่อจะหาเบาะแสในการคลี่คลายข้อสงสัย ตนก็ยอมรับได้หากสุดท้ายแล้ว ทั้งผลการชันสูตรและข้อสงสัยต่างๆได้รับการพิสูจน์จนยืนยันได้แล้วว่าหลานสาวฆ่าตัวตายจริง แต่หากหลานสาวถูกฆาตกรรมตนก็จะเดินหน้าหาตัวผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด