บุกไร่ล่าระทึก! จ๊ะเอ๋! หนุ่ม-สาวกลุ่มนี้ ดูหน้าไม่ใช่คนไทยแน่ๆ หนีหลบในไร่มันสำปะหลัง สารภาพจ่ายหนักกะมาอยู่ไทยยาวๆ แต่ไม่รอด!
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันจับ ”ก๊วนต่างด้าว” โดยสายลับส่งข่าวให้ตำรวจว่า จะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยมาจาก อ.ลานหอย จ.สุโขทัย มุ่งหน้าสู่ อ.บางปะอิน จ.อยุธยา ผ่านทาง จ.ลพบุรี เมื่อชุดจับกุมมาถึงทางหลวงหมายเลข 3326 ต.นิยมชัย อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี เจอรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน เป็นรถยนต์ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว และ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีขาว เป็นรถที่ตรงตามเบาะแสที่สายลับแจ้งไว้ ซึ่งรถทั้งสองคันขับผ่านเส้นทางด้วยความเร็วสูง ตำรวจสกัดจับรถอีซูซุได้ก่อน เมื่อตรวจค้น พบนายจิรยุทธฯ ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้ขับขี่ โดยมีชาวเมียนมา 11 คนโดยสารมากับรถยนต์คันดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตามสกัดรถยนต์ยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีขาว ที่หลบหนีมาบนทางหลวงหมายเลข 2321 ได้ใช้เส้นทางหลบหนีเข้ามายังบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.นิยมชัย อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี จนกระทั่งพบรถคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณท้ายป่ามันสำปะหลังในหมู่บ้าน จึงได้ปิดล้อมพร้อมวางกำลังตรวจค้นโดยละเอียด ผลปรากฏพบก๊วนเมียนมาอีก 12 คน หลบซ่อนอยู่ในพงหญ้าท้ายป่ามันสำปะหลัง หลังวัดแห่งหนึ่ง ม.6 ต.นิยมชัย อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี
ตำรวจตั้งข้อหาฐานความผิด กับผู้ต้องหาที่ 1 เป็นคนขับรถ กระทำความผิดฐาน “ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายเพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”
ส่วนผู้ต้องหาอีก 23 คน กระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1.รถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว
2.รถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีขาว
3.กุญแจรถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว จำนวน 1 ดอก
4.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ออปโป้ สีขาวมุก จำนวน 1 เครื่อง
5.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ ซัมซุง จำนวน 1 เครื่อง
สอบถามผู้ต้องหาที่ 1 ให้การว่าได้ไปรับแรงงานต่างด้าว (ผู้ถูกจับที่ 2 – 12) ที่บริเวณริมถนนข้างทาง อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก โดยได้รับค่าจ้างเที่ยวละ 15,000 บาท ผู้ถูกจับที่ 1 ยังรับต่อว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวดังกล่าวไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง (จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจสอบ และได้สอบถามผู้ถูกจับที่ 2 – 24 ให้การยอมรับว่า ตนเองพร้อมพวกจำนวน 23 คน ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมาในพื้นที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตากและจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพาเพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ ผู้ต้องหาทั้ง 24 คน ทราบแล้ว ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้นจึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสระโบสถ์ ภ.จว.ลพบุรี เพื่อดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป