วิธีลดโซเดียม ลดเค็ม เป็นวิธีง่าย ๆ ที่สามารถช่วยป้องกันโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้ โดยสามารถลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ โดยจะมีอะรไรบ้างนั้น Glock News ได้รวบรวม 4 วิธีลดโซเดียมมาแล้ว ดังนี้
1. ปรับพฤติกรรมการกิน
- ชิมก่อนปรุง: หลีกเลี่ยงการเติมเกลือ น้ำปลา ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม ซอสพริก น้ำจิ้มสุกี้ และเครื่องปรุงรสอื่น ๆ ที่มีโซเดียมสูง
- กินอาหารสด: เน้นผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์สด แทนอาหารแปรรูป อาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง อาหารหมักดอง ไส้กรอก แฮม เบคอน เพราะมักมีโซเดียมสูง
- อ่านฉลากโภชนาการ: เลือกซื้ออาหารที่มีโซเดียมต่ำ (ไม่เกิน 400 มิลลิกรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค)
- ลดการกินอาหารรสจัด: เช่น อาหารตามสั่ง มาม่าเกาหลี ก๋วยเตี๋ยว ยำ ต้มยำ ลาบ น้ำตก
- กินอาหารรสจืด: ฝึกให้ลิ้นชินกับรสชาติธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรุงรส
- ใช้น้ำสมุนไพร: เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด ผักชีฝรั่ง เพิ่มรสชาติอาหารแทนการใช้เกลือ
- กินสมุนไพร: เช่น ผักชี ต้นหอม โหระพา เพิ่มกลิ่นหอมให้กับอาหาร
2. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
- ดื่มน้ำเปล่าวันละ 8 แก้ว หรือ 2 ลิตร
- ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร เพื่อช่วยให้อิ่มเร็ว และกินอาหารได้น้อยลง
- ดื่มน้ำหลังออกกำลังกาย เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไป
3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาที 3-5 วันต่อสัปดาห์
- เลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย เช่น เดินเร็ว วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิก
4. ปรึกษาแพทย์
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคไต ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการลดโซเดียม
ประโยชน์ของการลดเค็ม ลดโซเดียม
- ช่วยลดความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง
- ช่วยลดความเสี่ยงของโรคไต
- ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง
- ช่วยลดอาการบวมน้ำ
- ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
บทสรุป วิธีลดโซเดียม
การลดเค็ม ลดโซเดียม เป็นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ เริ่มต้นได้ง่ายๆ เพียงปรับพฤติกรรมการกิน เลือกอาหาร เลือกเครื่องปรุงรส และดื่มน้ำให้เพียงพอ ลองนำไปปรับใช้กันดู เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว