“เศรษฐา” ลั่น ไม่อาย ใส่ชุดผ้าขาวม้าโชว์ ชี้ น่ายินดีข้าว 10 ปี ไร้สารก่อมะเร็ง

“เศรษฐา” ลั่น ไม่อาย ใส่ชุดผ้าขาวม้าโชว์ ชี้ น่ายินดีข้าว 10 ปี ไร้สารก่อมะเร็ง

นายกฯ เผยสวมชุดผ้าขาวม้าเดินกลางมิลาน ดูอินเตอร์ ไม่อายใคร หวังเป็นไอเดียต่อแปรรูปเพิ่มมูลค่า บอกมีแผนทำแบรนด์ผ้าไทยสู่ระดับโลก แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป ระบุ เป็นเรื่องน่ายินดีหลังผลตรวจสอบตัวอย่างข้าว 10 ปีไม่พบสารก่อมะเร็ง เชื่อขจัดข้อสงสัยได้ ถ้าไม่อคติ

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 พฤษภาคม 2567 (ตามเวลาท้องถิ่นสาธารณรัฐอิตาลี ซึ่งช้ากว่ากรุงเทพฯ 5 ชั่วโมง) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นำคณะสวมชุดผ้าขาวม้า เดินโชว์กลางเมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ก่อนออกเดินทางจากโรงแรมที่พักไปยังโรงงานผลิตชีส ของบริษัท BONI S.p.A เมืองปาร์มา เพื่อหาโอกาสความร่วมมือระหว่างไทยอิตาลี โดยอิตาลีเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและแปรรูปอาหารรายใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรป ว่า เสื้อที่สวมในวันนี้ ทำมาจากผ้าขาวม้า 2-3 ผืน เนื่องจากผ้าขาวม้าบางผืนไม่พอ เนื่องจากตนเป็นคนตัวใหญ่ จึงต้องใช้ 2 ผืน ซึ่งตนมองว่าดูอินเตอร์ ไม่ได้อายใคร ซึ่งครั้งที่ผ่านมาเป็นผ้าพันคอ อย่างไรก็ตาม เราสามารถนำผ้าขาวม้ามาแปรรูปได้ ทั้งผ้าพันคอ หมวก กางเกงขาสั้น หรือเสื้อที่ใส่ออกมาก็ดูสวยงามอย่างที่ทุกคนเห็น ซึ่งถือเป็นไอเดียในการแปรรูปสินค้าเพื่อทำให้ราคาสูงขึ้น ไม่ใช่ขายเพียงแค่ผ้าเฉยๆ 

เมื่อถามว่าในการเยือนต่างประเทศหรือไปประชุมครั้งถัดไป จะนำผ้าขาวม้าไปโปรโมตในลักษณะนี้อีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่ต้องขออุบไว้ก่อน เพราะแต่ละพื้นที่มีลักษณะแตกต่างกันไป เช่นการเยือนฝรั่งเศสสามารถใส่เป็นผ้าพันคอได้เพราะอยู่ในช่วงปลายฤดูหนาว ส่วนช่วงนี้เป็นต้นฤดูใบไม้ผลิ อุณหภูมิพอเหมาะสามารถตัดเป็นเสื้อได้ ก็ต้องติดตามต่อไป แต่สิ่งเหล่านี้อยู่ในแผนและอยู่ในใจที่อยากจะสนับสนุนให้สินค้าพื้นเมืองดีขึ้น 

เมื่อถามว่ามีแผนนำผ้าไทยมาทำเป็นแบรนด์ให้มีเอกลักษณ์ ของประเทศไทย เพื่อขายในระดับโลกอย่างไรบ้าง นายกรัฐมตรี กล่าวว่าก็พยายามอยู่ แต่เรื่องพวกนี้เราเร่งไม่ได้ อยู่ดีๆ ของไม่เคยถูกนำมาฉายในเวทีโลกแต่เพิ่งทำออกมาในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จะมีความคาดหวังให้ไปได้เร็วไม่ได้ต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป จะยั่งยืนกว่า ต้องมีการพัฒนาเรื่องคุณภาพ หากพัฒนาเร็ว สั่งซื้อมาเยอะไม่มีของก็จะทำให้เลิกเป็นที่นิยมไปอีก ขอให้ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปดีกว่า

นอกจากนี้ นายกฯ ยังให้สัมภาษณ์หลัง ผลตรวจสอบตัวอย่างข้าว 10 ปีที่ส่งตรวจจากห้องปฏิบัติการของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ไม่พบสารพิษที่ก่อให้เกิดมะเร็ง (อะฟลาท็อกซิน) และไม่มีสารปนเปื้อนที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อการบริโภค ว่า อย่างที่เคยบอกไว้ว่า รัฐบาลต้องการให้หน่วยงานที่เป็นกลาง ซึ่งสามารถเข้ามาตรวจสอบได้ ในส่วนของข้าว เหมาะสมที่จะมีการขายหรือเปล่า และเรื่องการตรวจสอบก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ในฐานะที่เราเป็นผู้ขาย และหากผู้ซื้อต้องการจะตรวจสอบเราก็พร้อม ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ข้าวยังไม่เสียและไม่มีสารปนเปื้อนจะสามารถทำราคาขึ้นได้ เป็นเรื่องที่น่ายินดี 

ผู้สื่อข่าวถามว่าผลวิจัยออกมาเช่นนี้ถือเป็นการขจัดข้อสงสัยจากหลายๆ ฝ่ายได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็หวังจะเป็นเช่นนั้นถ้าไม่มีอคติ เมื่อคนกลางเข้ามาพิสูจน์ทราบแล้วว่าไม่มีเชื้ออะฟลาท็อกซิน ก็น่าจะขายได้ในราคาที่เหมาะสม ตามกลไกของตลาด 

เมื่อถามว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รายงานหรือไม่ว่าจะเปิดประมูลได้เมื่อไหร่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกจะต้องมีการพิสูจน์ก่อน ว่าไม่มีสารอะฟลาท็อกซินและเชื่อว่ากระทรวงพาณิชย์เร่งขายอยู่แล้ว

แหล่งที่มา

Share:
Scroll to Top