ผบช.ภ.5 เผย โจรชิงทอง มือสังหารร้อยโท รับสารภาพสิ้นทุกข้อกล่าวหา ทำคนเดียว เหตุมีปัญหาเรื่องเงิน วางแผนประทุษกรรมมาจากเกมนาน 9 เดือน
ความคืบหน้าเหตุชิงทองกลางห้างดังในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองโดยไม่ได้มีการแสดงอาวุธออกมา เดินเข้าไปกวาดทองไปกว่า 70 บาท มูลค่ามากกว่า 3 ล้านบาท ก่อนที่จะใช้รถเก๋งสีขาวหมายเลขทะเบียร กร-1173 จันทบุรี ขับหลบหนีไป
จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 8 ก.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าพบรถเก๋งที่คนร้ายใช้ขับหลบหนี ถูกจอดทิ้งบริเวณเส้นทางขึ้นสู่ดอยสุเทพ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้ามาตรวจสอบ และทำการเปิดรถ เพื่อค้นหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พบว่าในรถมีหลักฐานหลายอย่าง รวมทั้งมีรอยเลือดจำนวนมากเปรอะในรถถุงพลาสติกและเอกสารมีเลือดที่เพิ่งเป็นรอยเลือดใหม่ๆเปรอะอยู่
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตามจับตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว อยู่ระหว่างคุมสอบปากคำที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านั้
ทั้งนี้วันที่ 8 ก.ค. 67 พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้ก่อเหตุดังกล่าว คือ นายนิพิฐพนธ์ สมบูรณ์สุขยิ่ง ยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืน Glock 19 มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และการก่อเหตุทั้งหมดได้มีการวางแผนมาหลายเดือนตั้งแต่เดือน ต.ค. 66 เพราะมีปัญหาเรื่องการเงินจึงวางแผนในการก่อเหตุ
โดยพฤติการณ์ในการก่อเหตุ คือประมาณตี 4 ของวันที่ 8 ก.ค. 67 นายนิพิฐพนธ์ ผู้ก่อเหตุ ได้ขับรถของตัวเองมาจอดไว้ บริเวณถนนสุเทพ จากนั้นก็เดินผ่านเส้นทางธรรมชาติมายังจุดที่1 จุดที่เจอรถ จากนั้นเรียกรถผ่านแอปพลิเคชั่นให้มารับ ณ จุดเกิดเหตุจุดที่1 จากนั้นพอว่าที่ร้อยโท สุเทพ ผู้ตายมาถึง ผู้ก่อเหตุก็ขึ้นรถบริเวณด้านหลัง ก่อนจะใช้ปืน Glock 19 จ่อยิง จากบริเวณด้านหลังเข้าที่ท้ายทอย 1 นัด จนเสียชีวิต จากนั้นได้นำร่างของผู้ตายย้ายจากฝั่งคนขับ เข้าไปอยู่บริเวณฝั่งผู้โดยสาร คนนั่งด้านซ้ายหน้า และขับรถของผู้ตายออกมาจากจุดที่ 1 ก่อนจะเคลื่อนร่างของผู้ตายมายังบริเวณหุบเหว จุดที่2 และทิ้งศพลงไป เพื่ออำพรางให้ไกลจากถนน โดยศพอยู่ห่างจากบริเวณถนนประมาณ 50 เมตร
จากนั้นนายนิพิฐพนธ์ ผู้ก่อเหตุได้ใช้รถคันดังกล่าวของผู้ตาย นำไปใช้ในการก่อเหตุชิงทอง อีกทั้งยังได้ใช้อุปกรณ์ของผู้ตาย ทั้งหมวก ผ้าปิดหน้า เสื้อแกร็บ กางเกง ของผู้ตายไปใช้ในการก่อเหตุ ที่ห้างดังเชียงใหม่ หลังก่อเหตุเสร็จได้ขับรถของผู้ตายกลับมาจอดทิ้งไว้ บริเวณจุดที่เรียกรถ (จุดที่1) จากนั้นเดินลัดเลาะภายในป่า ผ่านเส้นทางธรรมชาติ ไปทะลุอีกฝั่ง ซึ่งได้จอดรถเก๋งสีขาวของตัวเองเอาไว้ และมีการวางแผนทั้งหมดเอาไว้อยู่แล้ว
จากนั้นก็ไปตระเวนขายทองตามร้านทองในเมือง แต่ร้านทองภายในเมืองไม่รับซื้อ ผู้ก่อเหตุจึงเดินทางไปที่ร้านทองอีกแห่งหนึ่งที่ อ.สันกำแพง ซึ่งรับซื้อไป 2 บาท จากนั้นก็เดินทางไปขายทองที่ร้านทอง ใน อ.ดอยสะเก็ต ก็รับซื้ออีก 2 บาท ทำให้ นายนิพิฐพนธ์ สามารถขายทองได้ส่วนหนึ่ง ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามรวบตัวด้วย
เบื้องต้นผู้ก่อเหตุ รับสารภาพว่าทำคนเดียว ส่วนทองคำผู้ก่อเหตุ เอาไป 80 บาท ตำรวจตามคืนมาได้ 70 บาท
โดยผู้ต้องหาไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม เป็นลักษณะเด็กเนิร์ด และชอบเล่นเกม ซึ่งแผนประทุษกรรมส่วนหนึ่งน่าจะมาจากเกม เพราะมีการวางแผนไว้ทั้งหมด ทั้งเส้นทางต่างๆ ที่จอดรถ จุดเรียกแกร็บ จุดทิ้งศพ ซึ่งมีการวางแผนอย่างถี่ถ้วนและวางแผนตั้งแต่เดือน ต.ค. 66
เบื้องต้นแจ้งข้อหล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ชิงทรัพย์ และ พ.ร.บ.อาวุธปืน
จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 8 ก.ค. 67 เจ้าหน้าที่ได้นำร่างของ ว่าที่ร้อยโท สุเทพ ขึ้นมาจากหุบเหว ก่อนจะใช้เวลาในการชันสูตร 1 ชั่วโมง จากนั้น 23.00 น. เจ้าหน้าที่นำร่างของว่าที่ร้อยโท สุเทพ ออกจากพื้นที่จุดเกิดเหตุไป
ด้าน พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผบช.ภ.5 กล่าวว่า สำหรับ ร่างของผู้เสียชีวิตจะต้องนำไปชันสูตรเพิ่มเติมอีกครั้ง ร่างของผู้ก่อเหตุอยู่ลึกลงไปประมาณ 30 เมตร จากปากเหวด้านบน ผู้ก่อเหตุให้การว่าเป็นคนลากศพลงไป ประกอบกับกางเกงของผู้ตายนั้นมีร่องรอยของการฉีกขาด ซึ่งเกิดจากการถูกลาก ขณะนี้ผู้ต้องหายังให้การไม่หมด ต้องมีการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ คำให้การกับผู้ต้องหา 100% ส่วนทองของกลางที่ยังได้ไม่ครบ จะต้องมีการดำเนินการตรวจยึดคืนมาให้ครบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ได้มีการดำเนินการค้นหาร่างของผู้ตาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหา คือนายนิพิฐพนธ์ มาด้วย) เพื่อนำมาชี้จุด ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถ และเดินทางกลับไปที่ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ผู้ต้องหาปิดปากเงียบ
