'ก้าวไกล' แถลงคำวินิจฉัยของศาล รธน.เสี่ยงทำการปกครองกลายพันธุ์ ชวนขึ้นพรรคใหม่ 9 ส.ค.

‘ก้าวไกล’ แถลงคำวินิจฉัยของศาล รธน.เสี่ยงทำการปกครองกลายพันธุ์ ชวนขึ้นพรรคใหม่ 9 ส.ค.

“ชัยธวัช” แถลงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูยเสี่ยงทำระบอบประชาธิปไตยอันทรงมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กลายพันธุ์เป็นระบอบอื่น “ศิริกัญญา” แจ้ง วันที่ 9 ส.ค.นี้เตรียมพบพรรคใหม่

7 ส.ค.2567 ที่ทำการพรรคก้าวไกล หัวหมาก แกนนำพรรคก้าวไกลร่วมกันแถลงความเห็นต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิ์ทางการเมืองของนักการเมืองในพรรค 11 คน 

ชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญวันนี้เป็นที่ชัดเจนว่าพรรคก้าวไกลถูกยุบและกรรมการบริหารพรรค 11 คน ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเห็นว่าพรรคก้าวไกลกระทำการล้มล้างการปกครองและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง

ชัยธวัช กล่าว ในฐานะอดีตกรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ขอยืนยันว่าโดยข้อเท็จจริงและหลักกฏหมายที่ควรจะเป็น เราไม่ได้กระทำการผิดล้มล้างการปกครองหรือเป็นปฏิบัติต่อการปกครองอย่างที่ศาลเห็น

ประเด็นที่ 2 พวกเราเห็นว่าผลคำวินิจฉัยของศาลวันนี้ สิ่งที่เป็นผลกระทบและสำคัญกว่าการดำรงอยู่ของพรรคก้าวไกลและสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารของพรรคนั้นคือ

“คำวินิจฉัยในวันนี้ส่งผลอย่างสำคัญเป็นการวางบรรทัดฐานในการตีความรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่อันตราย สุ่มเสี่ยงที่จะกระทบต่อหลักการสำคัญและคุณค่าพื้นฐานที่ควรจะเป็นของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของพวกเราในอนาคต”

“ผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ในระยะยาวกลายพันธุ์เป็นระบอบอื่นได้ นี่คือนัยสำคัญที่พวกเราเห็นว่าส่งผลกระทบสำคัญยิ่งกว่ากันยุบพรรคก้าวไกล”

จากนั้นพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวต่อว่า แม้ว่าวันนี้เขาจะต้องอำลาในฐานะนักการเมืองและผู้แทนราษฎรทำให้การเดินทางในฐานะนักการเมืองจบลง แต่หลังจากนี้เขาอยากจะเริ่มต้นทำงานการเมืองในฐานะพลเมืองคนหนึ่งและจะไม่ทิ้งพี่น้องประชาชนตราบใดที่ประชาชนยังไม่ทิ้งเขาเช่นกัน 

“แล้วจะทำทุกวิถีทางในฐานะพลเมืองคนไทยทำให้บ้านเมืองดีขึ้นและช่วยพาหนะใหม่ของเพื่อนๆ อดีตสมาชิกพรรคก้าวไกลตามที่กฎหมายอนุญาตในการที่ทำให้พวกเขาสามารถจัดตั้งรัฐบาลที่ดีที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา”

พิธากล่าวว่า เข้าใจดีถึงความรู้สึกของประชาชนที่อาจจะรู้สึกผิดหวังและโกรธแค้นหรือต้องรู้สึกเศร้าเสียใจ แต่ขอให้หลังจากนี้เอาพลังงานที่มีอยู่ตอนนี้เป็นแรงผลักดันในเวทีการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นนับต่อจากนี้ไปและเขาไม่ท้อ ทั้งในการเลือกตั้งใหม่ที่เขต 1 พิษณุโลกแทนปดิพัทธ์ สันติภาดาที่ถูกตัดสิทธิ์เช่นกันในวันนี้และ การเลือกตั้ง อบจ. ราชบุรีด้วย ขอให้ใช้พลังความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นนี้เปลี่ยนเป็นพลังงานเชิงบวกแล้วไปใช้ในคูหาการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นไปจนถึงปี 2570 และเขาจะไม่ทิ้งแน่นอน

ศิริกัญญา ตันสกุล อดีตรองหัวหน้าพรรคก้าวไกลขึ้นกล่าวต่อว่า วันนี้เป็นวันที่พวกเราต้องรับคำวินิจฉัยยุบพรรคของศาลธรรมนูญอีกครั้ง คนที่ต้องรับรู้ถึงความรู้สึกเจ็บปวดในครั้งนี้ก็ไม่พ้นพวกเราที่ถูกวินิจฉัยให้ต้องโดนยุบพรรคเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งก็รวมถึงตัวเธอเองด้วย

“เรารับรู้ถึงความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเรารู้สึกร่วมกันทุกคนว่ามีความเจ็บปวดเกิดขึ้นแต่เราจะไม่ละทิ้งความฝันละทิ้งภารกิจหน้าที่ที่เราได้รับมอบมาจากประชาชนทุกคนตราบใดที่ประชาชนยังอยู่เคียงข้างเราอยู่ หนุนหลังเราให้เราเดินต่อไปข้างหน้าเพื่อทำภารกิจเปลี่ยนประเทศนี้ต่อเราก็จะเดินหน้าต่อไป”

ศิริกัญญาได้แจ้งว่าในวันที่ 9 ส.ค.นี้สมาชิกพรรคจะย้ายไปที่พรรคใหม่ด้วยกัน ขอให้ประชาชนร่วมย้ายและสนับสนุนพรรคใหม่ที่จะตั้งขึ้นหลังจากนี้ต่อไป นอกจากนั้นในวันนี้ที่เราถูกยุบพรรคเป็นวันที่สมาชิกพรรคก้าวไกลครบ 100,000 คนพอดีจึงก็อยากที่จะขอร้อง 100,000 คนนี้ไปกับเราต่อในบ้านใหม่และให้มีมากกว่าเดิม

ศิริกัญญาตอบคำถามสื่อว่าพรรคใหม่ยังคงเป็นการรวมตัวของอดีตพรรคก้าวไกลดังนั้นอุดมการณ์ก็คงสืบทอดกันไปด้วย แต่ในเรื่องของวิธีการเป็นเรื่องเฉพาะที่เกิดจากสภาวะแวดล้อมที่เกิดขึ้นในแต่ละเจเนอเรชั่นของสมาชิกที่มีอยู่ในขณะนั้นด้วยจึงยืดหยุ่นและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว

ศิริกัญญาตอบในส่วนเรื่องมาตรา 112 ด้วยว่า จนถึงวันนี้และทุกคนที่เป็น สส.ของก้าวไกลเชื่อว่ากฎหมายมาตรานี้มีปัญหา แต่ว่าวิธีการจะทำอย่างไรต่อจำเป็นต้องมีการพูดขึ้นในรายละเอียดมากขึ้นเมื่อเข้าสู่พรรคใหม่แล้ว เพราะในวันนี้คำวินิจฉัยของศาลยังไม่ได้มีการบอกว่าห้ามแก้โดยเด็ดขาด เรื่องของวิธีการจะต้องคุยในรายละเอียดมากขึ้นต่อไป

อดีตรองหัวหน้าพรรคกล่าวว่า ประเด็นเรื่องหัวหน้าพรรคคนใหม่ก็ขอให้รอดูวันที่ 9 ส.ค.นี้ เนื่องจากพรรคก้าวไกลเป็นสถาบันการเมืองก็ต้องขึ้นอยู่กับสมาชิกพรรคที่จะไปต่อด้วยกันว่าอยากให้มีหัวหน้าพรรคเป็นแบบไหน ซึ่งสามารถให้ความเห็นหรือออกเสียงของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ส่วนอดีต สส.พรรคก้าวไกลที่จะไปพรรคใหม่ด้วยกันตอนนี้ยังไม่ได้เช็คชื่อว่าจะมีใครตามไปบ้าง แต่เธอก็มั่นใจว่าทุกคนจะไปต่อกับเรา

ศิริกัญญากล่าวด้วยว่า ในวันที่ 9 ส.ค.นี้จะมีความชัดเจนในเรื่องของพรรคที่พวกเธอจะไปสังกัดร่วมกันและจะมีการเตรียมการสำหรับตั้งพรรคใหม่ ทั้งเรื่องกรรมการบริหารพรรคต่างๆ ก็คงจะมีความชัดเจนหลังวันที่ 9
 

แหล่งที่มา

Share:
Scroll to Top