“สว.สมชาย” แนะ จัดห้องพิเศษ รพ.ราชทัณฑ์ ขัง “ทักษิณ” อย่าปล่อยก่อนครบเวลา 1 ปี อาจเกิดคลื่นใต้น้ำ กระทบรัฐบาลเศรษฐา มอง ไม่ควรตั้งเป็นที่ปรึกษานายกฯ
วันที่ 22 กันยายน 2566 นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ที่รัฐสภา ถึงกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะดึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นที่ปรึกษาหลังพ้นโทษ ว่า ในวันที่ 25 กันยายน 2566 จะมีการประชุมคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา โดยเชิญ ปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการราชทัณฑ์สถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลตำรวจ มาให้ข้อมูล
นายสมชาย ระบุต่อไปว่า เราไม่ก้าวล่วงอาการป่วย นายทักษิณ แต่สิ่งที่ นายเศรษฐา พูดต้องผ่านด่านที่ 1 ก่อน ไม่ได้หมายความว่า นายทักษิณ ต้องกลับไปอยู่ในแดนเหมือนนักโทษคนอื่นทั่วไป อาศัยเคยเป็นนายกรัฐมนตรีก็เข้าไปอยู่ในเขตโรงพยาบาลราชฑัณฑ์ได้ อาจมีการจัดห้องพักพิเศษชั้น 9 มีห้องน้ำในตัว เตียงนอน แอร์ ทีวีต่างๆ ให้นายทักษิณ ได้พักอยู่จนครบ 1 ปี
ส่วนการที่นายกรัฐมนตรีจะแต่งตั้ง นายทักษิณ เป็นที่ปรึกษานั้น นายสมชาย มองว่าไม่มีความจำเป็น เพราะมีอดีตนายกรัฐมนตรีหลายคนที่ควรพบและขอคำปรึกษาได้ อีกทั้งเร็วเกินไปที่จะให้ นายทักษิณ เป็นที่ปรึกษารัฐบาล เพราะจะกระทบความเชื่อมั่น กระทบกระบวนการยุติธรรม ความศรัทธาต่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม “ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าไปตั้งเลย ขอคำปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการดีแล้ว”
ชง พ.ร.ก.นิรโทษกรรม เว้น 112 เตือน อย่าปล่อย “ทักษิณ” ก่อนครบ 1 ปี
นายสมชาย ยังกล่าวต่อไปว่า หลักนิติธรรมที่ นายเศรษฐา พูดนั้น ประการแรก ต้องทำให้นายทักษิณ อยู่ในความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรม ประการต่อมา ถ้านายทักษิณ จะเป็นต้นแบบในการปรองดอง รัฐบาลน่าจะหยุดคดีความเรื่องของความขัดแย้งในอดีตหลังรัฐธรรมนูญปี 2540 ไม่ว่าจะการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรปี 2547-2548 คดีการชุมนุมของกลุ่ม นปก. และ นปช. รวมถึงคดีปิดสนามบิน คดีเผาศาลากลาง และคดีอื่นๆ ถ้าเป็นเหตุเรื่องการเมืองที่ไม่ทำให้เกิดการเสียชีวิต แค่มีความเสียหายด้านทรัพย์สิน สิ่งเหล่านี้น่าได้รับการเข้ามาอยู่ในคณะกรรมการปรองดองที่พิจารณาออกพระราชกำหนดนิรโทษกรรม ให้กับกลุ่มต่างๆ ที่มีความขัดแย้งทางการเมือง เว้นแต่คดีมาตรา 112 ซึ่งบุคคลที่จะได้รับอภัยโทษ อาจต้องได้รับพระมหากรุณาธิคุณเอง และต้องสำนึกผิดเอง
ในช่วงท้าย นายสมชาย ยังระบุด้วยว่า “คิดว่าเป็นเรื่องที่นายกฯ ควรเร่งดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใด ยอมรับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเปลี่ยนผ่าน อภัยซึ่งกันและกัน คิดว่าถ้าทำพร้อมกันก็เสร็จ แต่หากปล่อยนายทักษิณออกมาก่อน 1 ปี แล้วคนอื่นๆ ยังติดคดี สังคมอาจจะไม่สงบ อาจเกิดคลื่นใต้น้ำไปยังรัฐบาลเศรษฐาได้”