โพล ชี้ คนไทยกังวลภัยไซเบอร์ระบาด ขอรัฐเร่งแก้ความไม่ปลอดภัย ออกกฎหมายครอบคลุมทุกมิติ ส่วนใหญ่ 76% เคยถูกหลอกลวง น่าห่วง ยังไม่พบไทยมีมาตรฐานกลาง เกิดจากความร่วมมือหน่วยงานรัฐและภาคเอกชน
วันที่ 24 ก.ย. 66 สำนักวิจัยสยามเทคโน โพล (Siam Techno Poll) วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เสนอผลสำรวจ เรื่อง “ความกังวลต่อโลกไซเบอร์” กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,021 ราย ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 15-23 กันยายน พ.ศ.2566
ที่ผ่านมาพบประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ เมื่อถามถึงประสบการณ์ของประชาชนถูกหลอกลวงในโลกไซเบอร์ โลกออนไลน์ จากการใช้โซเชียล พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.0 เคยถูกหลอกลวง ในขณะที่ร้อยละ 24.0 ไม่เคย นอกจากนี้เมื่อถามถึงระดับความกังวลในภัยคุกคามทางไซเบอร์ต่อความมั่นคงชาติ และความปลอดภัยของประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 56.0 กังวลค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ร้อยละ 35.1 กังวลปานกลาง และร้อยละ 8.9 กังวลค่อนข้างน้อยถึงไม่กังวลเลย ยิ่งไปกว่านั้นเกือบครึ่งหรือร้อยละ 49.7 กังวลค่อนข้างมากถึงมากที่สุดต่อความไม่ปลอดภัยทางไซเบอร์ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ร้อยละ 39.5 กังวลปานกลาง และร้อยละ 10.8 กังวลค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด
ที่น่าพิจารณาคือ ความพอใจของประชาชนต่อนโยบายรัฐบาลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ต่อความมั่นคงชาติ ระบบเศรษฐกิจของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชน พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 67.5 ระบุยังต้องปรับปรุงแก้ไข และร้อยละ 20.3 ระบุต้องแก้ไขเร่งด่วน ในขณะที่เพียงร้อยละ 12.2 พอใจมากถึงมากที่สุด
ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ในฐานะศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ วอชิงตัน ดี.ซี. ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม กล่าวว่า ในเวลานี้ประชาชนคนไทยกว่า 60 ล้านคน มีข้อมูลอยู่บนโลกไซเบอร์ และมีการใช้โทรศัพท์มือถือกว่าร้อยล้านเลขหมาย จึงกลายเป็นจุดอ่อนที่สุดในการถูกโจมตีทางไซเบอร์ได้ และจากข้อมูลวิจัยก่อนหน้านี้พบว่า ประชาชนมีความวางใจต่อความเชี่ยวชาญของเจ้าหน้าที่รัฐในความปลอดภัยทางไซเบอร์ยังไม่มากเพียงพอ
“ที่น่าเป็นห่วงคือ ยังไม่พบว่าประเทศไทยมีมาตรฐานกลาง ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐและภาคเอกชนไทย ในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีต่อความมั่นคงชาติ ระบบเศรษฐกิจ และความปลอดภัยของประชาชน และยังไม่พบกฎหมายที่ครอบคลุมทุกมิติในเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ตั้งแต่ต้นน้ำคือ การเฝ้าระวัง การเกาะติดอุบัติการณ์ การตอบสนองต่ออุบัติการณ์ และการฟื้นฟูเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นอันจะช่วยรักษาความมั่นคงชาติ ระบบเศรษฐกิจของประเทศ และความปลอดภัยของประชาชนได้ดีมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น” ผู้ทรงคุณวุฒิด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ กล่าว.