องค์กร PSC แถลง ช่วยตัวประกันไทย เรียกร้อง “อิสราเอล” ยกเลิกปิดล้อม “ฉนวนกาซา” เพื่อ มนุษยธรรม เหตุมีผลให้ชาวปาเลสไตน์ 2.3 ล้านคน ต้องอดตาย ขณะ ทูตปาเลสไตน์ในไทย ยัน ตัวประกันทุกคนไม่เกี่ยวข้องความขัดแย้ง เผย จะช่วยตัวประกันได้ ต้องหยุดยิง
วันที่ 13 ต.ค. 2566 เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. ที่มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย องค์กร PSC Thailand หรือ Palestine Solidarity Campaign Thailand จัดแถลงข่าว การช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยและการสู้รบระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอล โดยนายรุ่งโรจน์ ซาลลี ประธานองค์กร PSC Thailand ร่วมกับ H.E.Walid Abu Ali เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำประเทศไทย มาเลเซีย มัลดีฟส์ และบรูไน ร่วมการแถลงข่าวผ่าน Tele-press conference ในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อชี้แจง ข้อเท็จจริงการสู้รบที่ฉนวนกาซา และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวประกันของไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับกุมตัวอยู่ในขณะนี้
นายรุ่งโรจน์ กล่าวคำแถลงการณ์ มีใจความว่า “ขอเรียกร้องให้ทั้ง 2 ฝ่าย คือรัฐบาลฮามาส และอิสราเอล ได้หาทางบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และดำเนินการเจรจาให้ให้เกิดสันติภาพ บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศและมติของสหประชาติ นอกจากนี้ ยังขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลอิสราเอล ให้ยุติการปิดล้อมฉนวนกาซ่า ซึ่งจะมีผลทำให้ประชาชนชาวปาเลสไตน์ ผู้บริสุทธิ์ จำนวน 2.3 ล้านคน ต้องอดตาย ทั้งนี้ เพื่อมนุษยธรรม
อันองค์กร PSC ประเทศไทยนั้น ประกอบไปด้วยสมาชิกหลายเชื้อชาติ โดยเฉพาะจากประชาคมยุโรปและสหรัฐอเมริกา รวมถึงคนไทยผู้ที่รักความเป็นธรรมและยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม ที่มีเครือข่าย ประสานกับ PSC ต่างประเทศต่างที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ทั้งนี้ PSC ประเทศไทยจะได้ประสานไปยัง PSC ในประเทศต่างๆ เพื่อสร้างฉันทามติ เพื่อให้เกิดสันติสุข ความยุติธรรม สันติธรรมและกฎเกณฑ์ของกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ไม่มีการเลือกปฏิบัติครับ
ด้านเอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ (คนที่แปลให้สื่อชื่อ นายไฟโรส อยู่เป็นสุข กรรมการองค์กร PSC) กล่าวว่า ขณะนี้การสู้รบยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีทีท่าว่า จะมีการหยุดโจมตีกัน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเข้าไปตรวจสอบว่า ขณะนี้ตัวประกันที่ถูกจับตัวไป มีชาติใดบ้าง สิ่งที่ทำได้ขณะนี้คือ ต้นสังกัดหรือประเทศของแรงงาน หรือผู้ไปปฏิบัติงานในอิสราเอลให้ตรวจสอบและติดต่อแรงงานของประเทศตัวเอง หากติดต่อไม่ได้หรือหายตัวไป ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ถูกจับกุมตัวไป
ส่วนการช่วยเหลือตัวประกันขณะนี้ จะช่วยเหลือได้ หลังจากมีการหยุดยิง ซึ่งทางฝั่งปาเลสไตน์ ได้ขอให้หน่วยงานนานาชาติเข้าไปเจรจากับฝั่งอิสราเอล แต่ทางฝั่งของอิสราเอลยังไม่ยอมรับเงื่อนไข ซึ่งมองว่า หากมีการพูดคุยเจรจาทางการเมืองระหว่างประเทศได้สำเร็จ ก็จะนำไปสู่การหยุดยิง และสานต่อไปยังเรื่องของการช่วยเหลือตัวประกันได้
เอกอัครราชทูต ยังยืนยันว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นเพียงประเด็นขัดแย้งระหว่าง “ปาเลสไตน์” และ “อิสราเอล” เท่านั้น ฉะนั้น ตัวประกันประเทศอื่นๆ ที่ถูกจับตัว ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งนี้
