กต.เผย มติ คกก.เห็นชอบ จ่ายค่าเดินทางแรงงานไทย กลับจากอิสราเอล เต็มจำนวน

กต.เผย มติ คกก.เห็นชอบ จ่ายค่าเดินทางแรงงานไทย กลับจากอิสราเอล เต็มจำนวน

กต.เผย มติ คกก.เห็นชอบ จ่ายค่าเดินทางให้แรงงานไทยกลับจากอิสราเอลเต็มจำนวน เก็บหลักฐานยื่นได้ที่ แรงงานจังหวัด-เหล่าแรงงานไทย เผย ต่างซื้อตั๋วกลับเอง ถูกนายจ้างบังคับให้ทำงาน ทั้งที่กลุ่มฮามาสไล่ยิง ไม่ทำถูกไล่ออกจากแคมป์ ขอเอาชีวิตรอดไว้ก่อน

วันที่ 13 ต.ค. 66 นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า คณะกรรมการ มีมติเห็นชอบจ่ายเงินค่าเดินทางให้กับแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอล ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม คนที่ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับเอง โดยรัฐบาลจะจ่ายให้เต็มจำนวน ขอให้แรงงานเก็บหลักฐาน ตั๋วเครื่องบิน-ใบเสร็จ-บอร์ดดิ้งพาส และพาสปอร์ตยื่นเรื่องและเอกสารทั้งหมดที่แรงงานจังหวัดได้ตั้งแต่วันนี้ โดยไม่ต้องเดินทางมายื่นเองที่กระทรวงการต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ที่สนามบินสุวรรณภูมิ มีรายงานว่า มีพี่น้องแรงงานชาวไทย ทยอยเดินทางกลับมาจากอิสราเอลมาถึงประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง แรงงานไทย 3 คน เป็นชาวจังหวัดเชียงราย ให้สัมภาษณ์ว่า ตนและเพื่อนตัดสินใจ หนีกลับมาจากอิสราเอล ตั้งแต่เมื่อวานนี้ เพราะถูกนายจ้างบังคับให้ออกไปทำงานแม้ว่า จะมีการสู้รบกันอยู่ โดยทำงานที่เมืองนิติวูด ทำเกษตร ตั้งแต่มีการยิงกัน วันที่ 7 ตุลาคม 2566 กลุ่มฮามาส มาใกล้แคมป์คนงานเพียงแค่ 1 กิโลเมตรก็จะถึง ตอนนั้นต้องคอยหลบตามหลุมหลบภัยและใต้ท้องรถแทน แต่แคมป์คนงานที่อยู่รอบๆ ถูกกลุ่มฮามาสเข้ามาถล่มยิง และหากแรงงานไม่ออกไปทำงาน นายจ้างก็จะไล่ออกออกจากแคมป์ ซึ่งคนไทยก็พยายามอธิบายเหตุผลแล้วแต่นายจ้างก็ไม่ฟัง จะบังคับให้ออกไปทำงานอย่างเดียว ทำให้ตนและเพื่อนตัดสินใจทิ้งค่าแรงทิ้งทุกอย่างแล้วหนีออกมาที่สนามบินในอิสราเอล โดยการนั่งรถแท็กซี่มา ซึ่งตอนนี้รถแท็กซี่วิ่งได้ตามปกติแล้ว แต่พื้นที่สีแดงก็จะมีการคุ้มกันโดยทหารอิสราเอล และยอดผู้เสียชีวิตและคนที่โดนจับไปเป็นตัวประกัน มีมากกว่าตามที่ข่าวออกอย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้คนไทยในอิสราเอลหลายคนเดินทางมาที่สนามบินแม้ว่า จะไม่มีตั๋วเดินทาง แต่อย่างน้อยก็เอาตัวเองให้มาอยู่ในที่ปลอดภัยก่อน และคนไทยกำลังทยอยเดินทางมาที่สนามบินในอิสราเอลกันอีกหลายคน รวมถึงเพื่อนของตนด้วยที่จะบินตามกลับมาในคืนนี้อีกหนึ่งคน

“ซึ่งตั๋วที่เดินทางมาออกค่าใช้จ่ายเองประมาณ 27,000 บาท โดยคนไทยส่วนใหญ่ที่ยังไม่ตัดสินใจเดินทางกลับมาไทย เนื่องจากว่า เป็นห่วงเรื่องค่าจ้างที่ยังไม่ได้รับ และนายจ้างจะไม่เคลียร์เงินให้ทำให้มีความกลัวว่าจะไม่ได้เงิน แต่สำหรับพวกตนขอเอาชีวิตรอดไว้ก่อน” แรงงานไทยกล่าว… 

ส่วนอีกราย นายนันทชัย ทองคำ อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเดินทางกลับมาจากประเทศอิสราเอล พร้อมกระเป๋าใบใหญ่ 2 ใบ นายนันทชัย บอกว่า ทำงานอยู่ที่ประเทศอิสราเอลมาประมาณ 4 ปี ยอมรับว่ามีเหตุปะทะทั้งสองฝ่ายอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นการโจมตีทางอากาศ และทางอิสราเอลก็จะสามารถยิงสกัดไว้ได้ แต่ครั้งนี้ผู้รุกราน ใช้กองกำลังภาคพื้นดินนั่งรถกระบะเข้ามา และใช้เครื่องร่อน บินมาบนท้องฟ้า จากนั้นก็ใช้ปืนกราดยิง โดยไม่เลือกว่าเป็นสัญชาติใด

เมื่อวันเกิดเหตุ (6 ต.ค.) ประมาณ 7 โมงเช้า ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น พอหันไปดูก็เห็นควันลอยขึ้นบนท้องฟ้า ห่างจากจุดทำงานประมาณ 5 กิโลเมตร ตัวเองและคนไทยอีก 7 คน ต้องวิ่งหนีหลบใต้รถไถ และวิ่งเข้าไปหลบในบ้านของนายจ้าง จนเสียงการปะทะสงบลง

หลังเกิดเหตุครอบครัว ที่จังหวัดขอนแก่นขอให้เดินทางกลับ เพราะไม่อยากให้เสี่ยงอันตรายอยู่ที่ต่างประเทศ โดยจะหางานทำที่ประเทศไทยไม่เดินทางไปที่อิสราเอลแล้ว ส่วนเพื่อนคนงานอีก 7 คน ยังไม่เดินทางกลับ โดยจะรอดูสถานการณ์ แต่แม้ว่าจะมีการยิงปะทะกันไม่ไกลจากไร่ที่ทำงาน นายจ้าง ก็จะยังคงบังคับให้แรงงานออกไปทำงานทุกวัน แล้วให้ระวังตัวกันเอาเอง

ส่วนตัวนายนันทชัย เชื่อว่าคนไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลจะเสียชีวิตมากกว่าที่เป็นข่าว เพราะแต่ละแคมป์มีคนไทยอยู่ ไม่ต่ำกว่า 100 คน

ส่วนการเดินทางกลับมาในวันนี้ ตัดสินใจซื้อตั๋วกลับมาเองในราคา 42,000 บาท และรู้สึกขอบคุณ ที่รัฐบาลจะรับผิดชอบและดูแลแรงงานไทยในอิสราเอลทุกคนแม้ว่าจะเดินทางกลับมาด้วยตัวเองก็ตาม

แหล่งที่มา

Share:
Scroll to Top