Submitted on Sat, 2023-10-21 21:34
ธุลีดาวหาง
ในยิ้มฝืนกลืนกล้ำ”จุก” ของยุคสมัย
ยุคของใครต่อใครใช่แข่งจุก
จุกเป็นคำกริยาสารทุกข์
สะอื้นคลุกแทรกคราวหนาวอุ่นร้อน
เป้าหมายโลกฤาใช่โศกนาฏกรรม
ปรากฏการณ์กระหน่ำย้ำบอกสอน
ความสลดรดน้ำตาหน้าเปียกปอน
สงครามหลอนหลอกฝันถึงสันติภาพ
มนุษย์ชนทนไปในบัญชา
บรรดาห่ากระสุนเมินบุญบาป
ม่านน้ำตามองหาบ้านผลาญพังราบ
เลือดโทรมอาบบาดแผลแล่เนื้อลึก
สงครามมีแล้วกี่ครั้งการพังทลาย
โลกกลายเป็นสุสานตำนานศึก
ผู้บัญชาการสั่งดั่งคักคึก
ทว่านึกแผนไว้ไหมใครเคราะห์ร้าย?!
ผองใครเล่าเฝ้าโกรธโทษปีศาจ
ใครเล่าปรารถนาชนะผงะพ่าย
เขียนบทให้สลดหดหู่ดูล้มตาย
มนุษย์กลายเป็น”ทาสสู้” ใคร? ดูชม
พระเจ้าใช้ดีเอ็นเอ”เท่” กับ “โธ่” ?
มนุษย์โชว์ความเหนือกว่าฆ่าถล่ม
ประทับสรวงสวรรค์นิรันดร์ปั่นอารมณ์
เฝ้าผูกปมปรัชญาบัญชามนุษย์
เอาไฟแห่งความโกรธโหดร้ายซุก
สร้างความจุกกระตุกน้ำตาบรรดาบุตร
รสของความร้าวรวดปวดร้าวทรุด
เค็มปร่าสุดปลายลิ้นกินน้ำตา
ประหนึ่งโจทย์ยากง่ายให้คลายแก้
ดังร่างแหหฤหรรษ์แห่งหรรษา
หลงโทษปีศาจมันแข่งบัญชา
พระเจ้าสร้างมาแก้เหงาเท่านั้นเอง
ปีศาจเป็นสมองสมุนการครุ่นคิด
ในลิขิตเกมเศร้าเข้าข่มเหง
ผู้คนคือลูกรัก,ชังคลั่งบรรเลง
ตามเสียงเพลงสูงต่ำแหวกกระแทกกระทั้น
มอบบทชังบทรักปักใจให้
รสชาติใดใส่พลังใช้รังสรรค์
บนหนทางวางให้ไว้แล้วนั้น
นิรันดร์อันไม่รู้จบรบ,รักนี้
ใช้ความรักถักทอล่อห่วงใย
ลวงหัวใจให้หมดจดแล้วบดขยี้
แหนหวงสมบัติบ้าบรรดามี
พื้นผืนธรณีนี่ของตน
ลวงหลงว่าเหนือกว่าประชากร
เสมอภาคภราดรสอนบ้าบ่น
วาทกรรมอำพรางล้างสมองผองชน
เสรีภาพ,สันติภาพทุรายทุรนจนนิรันดร์